โจ๋เลือดขึ้นหน้า หึงแฟนเก่าที่เลิกนานแล้ว บุกทำร้ายแฟนใหม่จนสมองบวม!

โจ๋เลือดขึ้นหน้า หึงแฟนเก่าที่เลิกนานแล้ว บุกทำร้ายแฟนใหม่จนสมองบวม!

จากกรณีกลุ่มวัยรุ่นยกพวกทำร้ายกันในตลาดนัดศุภผล ต.เมืองเก่า อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ทำให้มีผู้บาดเจ็บสาหัสคือนายวสันต์ อายุ 18 ปี สมองบวมมีเลือดคั่ง ถูกส่งตัวไปผ่าตัดสมองที่โรงพยาบาลโสธราเวช จ.ฉะเชิงเทรา ตั้งแต่ในช่วงค่ำของวันที่ 13 ก.พ. อีกทั้งเมื่อนายตู่ อายุ 17 ปี เดินทางมาเยี่ยมนายวสันต์ที่โรงพยาบาล ก็ยังถูกกลุ่มวัยรุ่นคู่อริตามมาทำร้ายถึงหน้าห้องอุบัติเหตุ-ฉุกเฉิน ทำให้บาดเจ็บที่ศีรษะเล็กน้อย

ล่าสุดสามารถจับกลุ่มผู้ก่อเหตุได้แล้ว เป็นวัยรุ่นอายุ 17 และ 18 ปี 

ซึ่งนายเอก อายุ 18 ปี รับสารภาพ สาเหตุจากการหึงหวงแฟนสาวที่เลิกรากันไปนานแล้ว และอดีตแฟนสาวไปมีแฟนใหม่ คือนายวสันต์ มีการโพสต์ท้าทายในเฟซบุ๊กกันมาตลอด จนในวันเกิดเหตุได้ไปพบกับนายวสันต์ที่บริเวณตลาดนัดศุภผล ทำให้มีการชกต่อยกัน

หลังจากเกิดเหตุ ตนเองรู้สึกผิดที่เกิดอารมณ์ชั่ววูบและก่อเหตุที่โรงพยาบาลจึงขอโทษกับสังคมด้วย เบื้องต้นเจ้าหน้าที่เตรียมตั้งข้อว่าร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นให้เป็นอันตรายแก่ร่างกายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส

สอบสวนทราบว่า นายทนุเพิ่งมาทำงานได้ 4-5 วัน เดินทางมาขายปุ๋ยในเขต ต.แม่สิน พร้อมพวกรวม 4 คน ต่อมาเกิดทะเลาะกันอย่างรุนแรง ถึงขั้นชกต่อย เพื่อนๆ จึงไปแจ้งเจ้าหน้าที่สายตรวจที่ป้อมยามให้พาตัวไปสงบสติอารมณ์ เนื่องจากนายทนุ มีอาการคลุ้มคลั่ง จนไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ ระหว่างนั้น นายทนุ หลบหนีไป

จนกระทั่งมาถึงที่เกิดเหตุ เห็นนายปราจีน นั่งพักผ่อนอยู่ในบ้านหลังดังกล่าว จึงคว้าชะแลงเหล็ก จากบ้านข้างๆ เดินเข้าไปตีที่ศีรษะนายปราจีน 4-5 ครั้ง โดยที่ไม่รู้จักและไม่เคยมีเรื่องกันมาก่อนจนเสียชีวิต แล้วหนีไปหลบในสวนส้มฝั่งตรงข้าม จนกระทั่งเจ้าหน้าที่มาจับกุม จากการสอบสวนให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา  ข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนา  เจากการสอบถามญาติ ทราบว่าผู้ต้องหา เคยเข้ารักษาอาการทางประสาท ที่จ.ขอนแก่น มาก่อน

จากกรณีเด็กหญิง อายุ 12 ปี ถูกชาย 2 คน ล่อลวงไปข่มขืนในอาคารร้างสูง 7 ชั้น บริเวณถนนรามคำแหง แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม. เมื่อวันที่ 13 ก.พ. เวลา 23.50 น. เบื้องต้นทราบตัวผู้ก่อเหตุคือ “บังนัท” หรือ นายสำรวย จิตรชื้น อายุ 42 ปี

ความคืบหน้าล่าสุด พนักงานสอบสวน สน.หัวหมาก ขออนุมัติศาลออกหมายจับนายสำรวย จิตรชื้น อายุ 42 ปี หรือบังนัท เป็นที่เรียบร้อย  ข้อหาข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี และพรากผู้เยาว์เด็กอายุไม่เกิน 15 ปี และยังพบว่าบังนัท เคยมีประวัติเกี่ยวกับยาเสพติดในพื้นที่สน.บึงกุ่มอีกด้วย ทางเจ้าหน้าที่พบว่าบังนัทใช้รถจักรยานยนต์หลบหนี และคาดว่ามีเพื่อนไปบอกบังนัทว่า ตอนนี้ตำรวจ

คนงานเหี้ยม! ใช้ไขควงแทงคอเจ้านายตาย ก่อนจี้รถจยย.หลบหนี

เมื่อเวลา 15.00 น. 12 ก.พ. เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรเสม็ด รับแจ้งเหตุชิงรถจักรยานยนต์ ที่บริเวณร้านสะดวกซื้อ ซอยลุงสอง หมู่ 1 ต.เสม็ด อ.เมืองจังหวัดชลบุรี ที่เกิดเหตุพบ น.ส.สุภาภรณ์ อายุ 28 ปี เจ้าหน้าที่สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดชลบุรี พร้อมเพื่อนสาวอีก 2 คนยังอยู่ในอาการตกใจ

น.ส.สุภาภรณ์ กล่าวว่า คนร้ายเป็นชายสูงผมหยิก ใส่เสื้อคนงาน ใช้ไขควงปลายแหลมมาจี้และผลักให้ลงจากรถจักรยานยนต์ จากนั้นคนร้ายได้ขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป ต่อมาได้เข้าแจ้งความที่ สถานีตำรวจภูธรเสม็ด เพื่อให้ช่วยติดตามตัวคนร้าย

ติดตามตัวคนร้ายพบว่า คนร้ายคือ นายสุรศักดิ์ อายุ 22 ปี เป็นคนงานก่อสร้างใกล้ที่เกิดเหตุ ก่อนหน้านี้ได้ใช้ไขควงแทงต้นคอของ นายชาญชัย อายุ 37 ปี หัวหน้าคนงาน ทำให้เลือดตกในและไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาลชลบุรีในเวลาต่อมา ส่วนสาเหตุคาดว่าอาจจะมาจากการทะเลาะกับหัวหน้าคนงาน จึงได้วางแผนฆ่าในครั้งนี้ หลังจากนั้นได้ชิงรถจักรยานยนต์หลบหนีไปจึงอยากให้นายสุรศักดิ์มามอบตัวกับตำรวจ โทษหนักจะได้เป็นเบา

วันที่ 14 ก.พ. เกิดเหตุภรรยายิงสามีได้รับบาดเจ็บภายในบ้านครึ่งตึกครึ่งไม้ ที่เกิดเหตุ  ดร.รัฐศาสตร์ พาณิชย์พงศ์ภัค อายุ 45 ปี นอนฟุบจมกองเลือดอยู่บนพื้นหน้าตู้เสื้อผ้า ขณะที่ นางมยุรา พาณิชย์พงศภัค อายุ 44 ปี ภรรยา ยืนสั่นอยู่ข้างๆ ด้วยอาการตกใจ พบอาวุธปืนขนาด 9 ม.ม. ซึ่งเจ้าตัวอ้างว่าปืนลั่น ทำให้กระสุนเจาะขมับขวาสามี 1 นัด ทะลุใต้คางขวาอาการสาหัส ส่งห้องไอซียู

โดยสาเหตุเกิดจาก ตอนเย็นวานนี้ 13 พ.ย. นางมยุรา และ ดร.รัฐศาสตร์ ได้ออกไปทานข้าวเย็นนอกบ้าน ระหว่างนั้นมีโทรศัพท์สายหนึ่งเข้ามาที่เครื่องของสามี นางมยุราจึงถามว่าสายใครโทรมา แต่ ดร.รัฐศาสตร์ ตอบไม่ได้ พอกลับบ้านพัก นางมยุรา ก็คอยสอบถามคำถามเดิม เพราะรู้สึกสงสัย จึงได้มีปากเสียงกัน ก่อนที่ นางมยุรา จะไล่ให้ ดร.รัฐศาสตร์ เก็บของออกจากบ้าน ดร.รัฐศาสตร์ ได้เก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าจริงๆ จึงเกิดการถกเถียงและยื้อแย่งข้าวของกัน ทำให้ปืนที่ถืออยู่ลั่น จนร่างของ ดร.รัฐศาสตร์ ล้มฟุบลงกับพื้น นางมยุรา จึงรีบวิ่งไปแจ้งเหตุกับกู้ภัยอโศก ก่อนที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยโรงพยาบาลสมเด็จเข้ามาช่วยเหลือ

สำหรับดร.รัฐศาสตร์ เป็นผู้บริหารของโรงเรียนเอกชนชั้นนำแห่งหนึ่งใน อ.สมเด็จ เป็นผู้บริหารรุ่นใหม่ วิสัยทัศน์ยาวไกล บุคลิกดี จนได้รับความไว้วางใจจากกลุ่มโรงเรียนเอกชนให้เป็นประธานส่งเสริมการศึกษาเอกชน จ.กาฬสินธุ์ ที่กำลังทำการขับเคลื่อนด้านการเรียนการสอนอย่างดีเยี่ยม ขณะที่นางมยุรา เป็นนักธุรกิจน้ำปลาร้าส่งขายหลายจังหวัดทางภาคอีสาน

แนะนำ : เคล็ดลับต่างๆ | เว็บรวมวิธีต่างๆ How to | จัดอันดับซีรีย์ | รีวิวครีม