ตร. ตามล่า ผู้ชุมนุมถือปืน ม็อบ29สิงหา ที่สามเหลี่ยมดินแดง

ตร. ตามล่า ผู้ชุมนุมถือปืน ม็อบ29สิงหา ที่สามเหลี่ยมดินแดง

ผบช.น. ออกมาเปิดเผยว่าขณะนี้ทางเจ้าหน้ากำลังเร่งตามหา ผู้ชุมนุมถือปืน ในการชุมนุม ม็อบ29สิงหา ที่ผ่านมา ไม่ทราบว่าปืนจริงหรือปืนปลอม พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. ได้ออกมาแถลงถึงการชุมนุมของ ม็อบ29สิงหา ที่ผ่านมาว่า มีการชุมนุม 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มไทยไม่ทน กลุ่มอาชีวะพิทักษ์ประชาชน กลุ่มก่อความวุ่นวายบริเวณสามเหลี่ยมดินแดง การชุมนุมเริ่มตั้งแต่ 14.00 น. และยุติในเวลา 21.00 น. เจ้าหน้าที่สืบทราบว่าจะมีการนำอาวุธเข้าไปก่อเหตุความรุนแรงบริเวณสามเหลี่ยมดินแดง โดยตั้งจุดตรวจสกัดก่อนและหลังการชุมนุม

โดย จากการตรวจสอบเจ้าหน้าที่จับกุมผู้ต้องหา 29 ราย ชาย 27 ราย หญิง 2 ราย เป็นเยาวชน 13 ราย ยึดของกลางรถจยย. 11 คัน 

พร้อมระเบิดแสวงเครื่อง ลูกแก้ว พลุ ระเบิดเพลิง อาวุธมีดหลายรายการ ระหว่างการชุมนุมมีการทำร้ายเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงปฏิบัติหน้าที่บริเวณที่เกิดเหตุ ขอบคุณบุคลากรทางการแพทย์ที่เข้าไปช่วยเหลือและนำส่งโรงพยาบาล ขณะนี้สามารถจับกุมผู้ต้องหาก่อเหตุดังกล่าวได้ 2 ราย เป็นเยาวชน 1 ราย รายอื่นๆ อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน

ส่วนภาพที่ปรากฏกลุ่มผู้ชุมนุมถืออาวุธปืนบริเวณสามเหลี่ยมดินแดง พล.ต.ท.ภัคพงษ์ กล่าวว่า อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานติดตามตัว ส่วนจะเป็นอาวุธปืนเทียมหรือไม่ ต้องรอผลการจับกุม เพื่อส่งให้พิสูจน์หลักฐานตรวจสอบ

ส่วนกรณีมีการใช้อาวุธปืนยิงใส่เจ้าหน้าที่ ทางเจ้าหน้าที่ดำเนินการตามยุทธวิธี และดำเนินการกรณีสมควรแก่เหตุจำเป็นต้องปฏิบัติ ยกตัวอย่างเมื่อวาน (29ส.ค.) วัตถุประสงค์เจ้าหน้าที่ต้องการรักษาความสงบเรียบร้อย แต่ในเวลากลางคืนมีการใช้อาวุธ เจ้าหน้าที่หลีกเลี่ยงเนื่องจากอาจจะกระทบผู้ที่พักอาศัยบริเวณใกล้การชุมนุม หากมีความจำเป็นในการระงับเหตุจะทำการตอบโต้ ถ้ามีความวุ่นวายทำลายทรัพย์สินก็จะเข้าดำเนินการ

สำหรับกรณีนักข่าวถูกกระสุนยางนั้น ไม่ว่าจะเกิดเหตุอย่างไรก็รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ต้องระมัดระวังในการปฏิบัติหน้าที่ ส่วนวิธีการใช้แก๊สผสมสี เพื่อต้องการแยกกลุ่มผู้ชุมนุมออกจากคนปกติ คราวต่อไปหากพบว่าเข้าร่วมชุมนุมผ่านบริเวณด่านก็จะดำเนินการจับกุม

เหตุการณ์ดังกล่าว บช.น.ยึดหลักการรักษาความสงบเรียบร้อย ไม่ให้เหตุความวุ่นวายเข้าไปบริเวณที่พักอาศัยและเข้าไปปฏิบัติหน้าที่บริเวณดังกล่าว หากใครมีเบาะแสแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบเพื่อเข้าจับกุมผู้กระทำผิดที่เกี่ยวข้องตามกฎหมาย

การปฏิบัติหน้าที่ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่เน้นการปฏิบัติหน้าที่โดยใช้น้ำเป็นหลักและใช้แก๊สน้อยลง เนื่องจากไม่ต้องการให้เหตุการณ์รุนแรงมากขึ้น ถ้าเกิดการชุมนุมใช้กำลังทำร้ายบุคคลอื่น ตำรวจต้องเข้าระงับเหตุ

บก.ลายจุด ด่า ‘สิระ’ ขี้หมา หลังท้าไฮโซลูกนัทกรณีตาบอด

บก.ลายจุด เดือดบ่นรำคาญ สิระ กรณีวางเงินเดิมพันกับไฮโซลูกนัทว่าตาบอดจริงหรือไม่ ซัดปากดีและหิวแสง นาย สมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด โพสต์ข้อความลงทวิตเตอร์เพื่อแสดงความเห็นถึงเหตุการณ์ระหว่าง นายสิระ เจนจาคะ และ ธนัตถ์ ธนากิจอำนวย หรือ ไฮโซลูกนัท ที่มีการท้าเดิมพันว่าตาบอดจริงหรือไม่ โดยมีการวางเงินหลักล้านเป็นเดิมพัน

ก่อนที่การเดิมพันจะจบลงด้วย นาย สิระ โมฆะการเดิมพันดังกล่าว เนื่องจาก ไฮโซลูกนัท นำเช็ค 10 ล้านมาแทน ซึ่งนายสิระมองว่าผิดข้อตกลงที่ไฮโซลูกนัท นำเช็คมาแทนเงินสด พร้อมประกาศลั่นว่าตนไม่ใช่เพื่อนเล่น โดย บก.ลายจุด ระบุว่า “โคตรรำคาญสิระ ทำเป็นปากดีจะจ่าย 1 ล้านกรณีลูกนัทตาบอด พอมีใบรับรองแพทย์บอกว่าต้องควักลูกตาออกมา วันนี้หิวแสงจะเอาเงินมาวางเดิมพันกันอีกรอบ ขี้หมา”

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เล็งเห็นความสำคัญของปัญหาข่าวและข้อมูลปลอม ที่มีการเผยแพร่ส่งต่ออยู่บนสื่อสังคมออนไลน์อยู่เป็นจำนวนมาก และมีผู้กระทำผิดอยู่ในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ เพื่อให้การแก้ปัญหาเป็นไปอย่างรวดเร็วและทันเหตุการณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการตรวจสอบ

พิสูจน์ทราบตัวผู้กระทำผิดที่แท้จริง และการดำเนินการติดตามตัว มาดำเนินคดีตามกฎหมาย จึงได้ จัดตั้งศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมและความมั่นคงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ ANSCOP เพื่อให้การควบคุม กำกับดูแล สั่งการ และบริหารราชการ ให้เป็นเอกภาพ ภายใต้ยุทธศาสตร์และมาตรการบังคับใช้กฎหมายที่ชัดเจน พร้อมกันนี้ ได้กำหนดให้มีการจัดตั้ง ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมและความมั่นคงของกองบัญชาการตำรวจนครบาลและตำรวจภูธรภาค 1-9 เพื่อให้การปฏิบัติงานครอบคลุมพื้นที่และสามารถดำเนินการแก้ไขปัญหาข่าวและข้อมูลปลอมได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมและความมั่นคง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือANSCOP มีการบูรณาการประสานงานกับกระทรวงดิจิตอลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในการดำเนินการแก้ไขปัญหาข่าวและข้อมูลปลอมอย่างต่อเนื่อง โดยมีศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมแห่งประเทศไทย หรือ AFNC รับผิดชอบในการรับเรื่อง ติดตาม ตรวจสอบข้อมูลข่าวที่อาจมีลักษณะปลอมหรือบิดเบือนอยู่ตลอดเวลา มีการประสานงานกับศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมทุกส่วนราชการ หรือหน่วยงานของรัฐ เพื่อตรวจสอบและยืนยันข่าว เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อได้รับการยืนยันว่าเป็นข่าวปลอมหรือข่าวบิดเบือนแล้ว ก็จะส่งต่อข้อมูลดังกล่าวมายัง

แนะนำ : เคล็ดลับต่างๆ | เว็บรวมวิธีต่างๆ How to | จัดอันดับซีรีย์ | รีวิวครีม